ประวัติ ชนาธิป สรงกระสินธ์
ประวัติ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลไทย ที่คนไทยเรียกกันว่าเมสซี่เจหรือ เมสซี่เมืองไทย นั่นเองฉายานี้ของเขาไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เขาเป็นนักฟุตบอลที่ตัวเล็กมากแต่ความสามารถของเขานั้นไม่เล็กเหมือนกับรูปร่างของเขาเลยเพราะการเล่นบอลของเขาต้องบอกว่าจับทางยากมากๆด้วยความสามารถเฉพาะตัวบวกกับความเร็วและทักษะการเลี้ยงบอลที่แย่งบอลกับเขายากมากๆ และที่เด่นชัดคือมีการเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่เหมือนกับ ลิโอเนล เมสซี่ นักฟุตบอลชาว อาร์เจนติน่า วันนี้ทางทีมงานของเราจึงได้เตรียมข้อมูลของเขามานำเสนอเพื่อที่จะได้รู้จัก เมสซี่เจ ให้มากขึ้น

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม : สิบตำรวจตรี ชนาธิป สรงกระสินธ์ (เจ)
วันเกิด : เกิดวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 (29 ปี)
สถานณ์ที่ : จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย
ส่วนสูง : 1.58 เมตร (5 ฟุต 2 นิ้ว)
สโมสรปัจจุบัน : บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ตำแหน่งที่เล่น : กองกลางตัวรุก / ปีก
สวมเสื้อเบอร์ : 18
ลงเล่น : มิถุนายน 2566–ปัจจุบัน
เจ ชนาธิป มีจุดกำเนิดมาจาก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เขาได้เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุประมาณ 4 ขวบที่มีพ่อเป็นผู้สอนการเล่นและได้จริงจังกับฟุตบอลตั้งแต่ตอนเรียนประถมที่ โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร หลังจากได้จบการศึกษาในระดับประถมก็ได้เข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนในจังหวัดบ้านเกิดของเขาเอง และได้ไปร่วมเล่น บอลเดินสาย กับทีมชื่อดังในจังหวัดนครปฐม

หลังจากที่เขาได้จบมัธยมตอนต้น เจได้เข้าศึกษาต่อใน วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชย์การราชดำเนิน พร้อมกับการเล่นฟุตบอลให้สถาบัน และคว้ารางวัลชนะเลิศ ฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีประเภท ก. มาครองในปี พ.ศ 2554
ในปีพ.ศ 2554 หลังจากที่เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียนได้นั้น ได้ถูกสโมสร TOT ปฏิเสธการเซ็นสัญญาเข้าสู่ฟุตบอลอาชีพเหตุผลเพียงเพราะเขามีรูปร่างเล็กเกินไปไม่เหมาะสำหรับฟุตบอลอาชีพ แต่เป็นทางสโมสร บีอีซี เทโรศาสน ที่ได้นำชนาธิปมาอยู่ในชุดเยาวชนยู 19 ของสโมสร หลังจากนั้นชนาธิปพายู 19 คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2554 ได้พร้อมกับคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกด้วย
หลังจากที่ชนาธิปทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลเยาวชนเอฟเอ ยูธ คัพ จึงได้รับโอกาสเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของสโมสร บีอีซี เทโรศาสน และได้รับโอกาสลงสนามเป็นผู้เล่น 11 คนแรกตั้งแต่แมทแรกของ ไทยพรีเมียร์ลีก 2555 ที่ออกไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และพ่ายให้กับเจ้าบ้านไปในเกมนั้นและสามารถทำประตูแรกของตัวเองให้กับสโมสรอย่างเป็นทางการในแมตช์ที่พบกับ การท่าเรือ เอฟซี
ชนาธิปในวัยเพียง 18 ปีก็ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นบอลถ้วยหรือบอลลีกจนกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของสโมสร และพาสโมสรคว้าแชมป์ฟุตบอล โตโยต้า ลีกคัพ ในปีพ.ศ.2557 เป็นแชมป์แรกของเจ้าตัวกับสโมสรแห่งนี้พร้อมกับคว้ารางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำประจำทัวร์นาเมนต์ไปครองอีกด้วย หลังจากนั้นในฤดูกาล 2558 ชนาธิปได้มีอาการบาดเจ็บมารบกวนจนทำให้ช่วยสโมสรไม่ได้จนต้องย้ายไปสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว

ในฤดูกาล 2559 ชนาธิปได้ก้าวเข้าสู่สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวพร้อมกับ ออฟชั่น ซื้อขาดจาก บีอีซีเทโร และหลังจากนั้นก็ได้เซ็นสัญญาจะเป็นทางการกับเมืองทองยูไนเต็ด พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ พีรพัฒน์ โน๊ตไชยา ทั้ง 3 ได้เป็นกำลังหลักสำคัญของสโมสรและพาสโมสรคว้าแชมป์ฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัวทางสโมสร คอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมในลีกญี่ปุ่น ได้ติดต่อเรียกตรวจชนาธิปไปร่วมทัพ

ชนาธิปได้ย้ายเข้าไปเล่นในฟุตบอล เจลีก ให้กับสโมสร คอนซาโดเล ซัปโปโร ในปี 2560 ด้วยสัญญายืมตัวและชนาธิปก็ได้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในปีนั้นแถมยังคว้าตำแหน่ง MVP ของสโมสรในฤดูกาลนั้นพร้อมกับได้รับการโหวตให้ติด ทีมยอดเยี่ยม แห่งเจลีกในฤดูกาล 2560 อีกด้วย หลังจากนั้นชนาธิปก็โดนซัปโปโรซื้อขาดไปอยู่กับทีมและเขาก็ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง
จนทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่จากเจลีกอย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล ทุ่มเงินราวๆ 100 ล้านบาทเพื่อซื้อชนาธิปไปร่วมทัพ และเขากลายเป็นนักเตะที่ทำลายสถิติสูงสุดของเจลีกกับการย้ายทีมในประเทศและด้วยค่าตัวที่สูงเป็นสถิติใหม่ของเจลีก จึงทำให้เจ้าตัวรับความกดดันอย่างมากและมีอาการบาดเจ็บมารบกวนจนไม่ค่อยได้รับโอกาส ทำให้ผลงานของเขากับฟอนตาเล่นั้นไม่ไปในทิศทางเดียวกันเจ้าตัวจริงตัดสินใจแยกทางกับสโมสรดังกล่าวเพื่อกลับมาเล่นใน สโมสรไทย อีกครั้ง

การกลับมาไทยลีกอีกครั้งในรอบ 6 ปีของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับสโมสรยักษ์ใหญ่ในฟุตบอลไทยลีก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีคู่หูในทีมชาติและในสโมสรเก่าอย่างเมืองทองร่วมทัพอยู่ด้วยก็คือ สารัช อยู่เย็น และ ธีรศิลป์ แดงดา ในฤดูกาลนี้พวกเขาหวังกวาดแชมป์มาครองเพราะด้วยการเสริมทัพในฤดูกาล 2566/67 ถือว่าเสริมแกร่งได้ทุกตำแหน่ง การกลับมาของชนาธิปในครั้งนี้คงเป็นการกลับมาเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองและทำผลงานอย่างที่คาดหวัง

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 18 ปีและได้เป็นกำลังหลักสำคัญให้ทีมชาติไทยยู 23 พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ ฟุตบอลซีเกมส์ มาครอง ในปี 2556 และปี 2558 ภายใต้การคุมทีมของ ซิโก้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมกับให้โอกาสชนาธิปได้เล่นใน ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ก้าวขึ้นเป็นกำลังหลักสำคัญของ ช้างศึก ทีมชาติไทยมานับตั้งแต่นั้นมา และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาทีมชาติคว้าแชมป์ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลคิงส์คัพ และฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ปัจจุบันยังคงเป็นกำลังหลักสำคัญให้กับทีมชาติไทยพร้อมกับได้รับความไว้วางใจจากมาโน โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทยให้เป็น กัปตันทีมชาติไทย คนปัจจุบัน

รางวัลระดับสโมสร
- ชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ : 2554 (บีอีซี เทโรศาสน U-19)
- ชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ : 2557 (บีอีซี เทโรศาสน)
- ชนะเลิศ โตโยต้า ไทยลีก : 2559 (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
- รองชนะเลิศ เจลีกคัพ : 2562 (คอนซาโดเล ซัปโปโระ)
- รองชนะเลิศ เจแปนนิส ซูเปอร์คัพ : 2565 (คาวาซากิ ฟรอนตาเล)
รางวัลระดับทีมชาติ
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ : อันดับที่สาม 2556/รองชนะเลิศ 2558
- เหรียญทอง ซีเกมส์ : 2556 2558
- อันดับที่ 4 เอเชียนเกมส์ : 2557
- เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ : รองแชมป์ 2555/ชนะเลิศ 2557 2559 2563
รางวัลส่วนบุคคล
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม สยามโกลเดนบอล ประจำปี พ.ศ. 2554 และปี พ.ศ. 2557
- ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยม ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2555
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม โตโยต้า ลีกคัพ ประจำฤดูกาล 2557
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ : 2557 2559 2563
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยม, รางวัลคะแนนเสียงยอดนิยม (Popular Vote), นักฟุตบอลรวมดารา (All-Stars) รายการไทยพรีเมียร์ลีก และผู้ยิงประตูประทับใจ สยามโกลเดนบอล ประจำปี พ.ศ. 2557
- นักเตะยอดเยื่ยมประจำทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ประจำฤดูกาล 2561
- นักเตะยอดเยื่ยมประจำสนามซัปโปโรโดม ประจำฤดูกาล 2561
- 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของ เจลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2561
อ่านข่าวบอลไทยเพิ่มเติม :: ฟุตบอลไทย